ยุคสมัยนี้ ไม่ว่าจะหันไปทางไหน
ก็มักจะเห็น ผู้คนต่างก้มหน้าก้มตาจดจ้องอยู่กับโทรศัพท์ แทบจะทุกอิริยาบถ
ไม่ว่าจะเป็นการยืน เดิน หรือนั่ง
ดูเหมือนว่าโทรศัพท์จะกลายเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญในชีวิต
จนทำให้เราสนใจสิ่งรอบข้างน้อยลง ลองปรับเปลี่ยนพฤติกรรมก้มหน้า
แล้วหันมาใช้ชีวิตแบบง่ายๆ ห่างไกลเทคโนโลยีบ้างด้วย 9
วิธีบำบัดอาการติดโซเชียลแนวใหม่ต่อไปนี้
|
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต |
1. ทำให้เหมือนแบบทดสอบ
ปกติเราเช็กโทรศัพท์แทบจะทุ ๆ 15 นาที
ยิ่งถ้ามีเสียงติ๊งร้องเตือนก็จะหยิบขึ้นมาดูโดยทันที
ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกที่พอห่างจากโทรศัพท์เพียงแค่ชั่วระยะเวลาเดียว
ความรู้สึกกระวนกระวายก็เริ่มเข้ามาก่อกวน
แต่ในเมื่อตั้งใจจะลดอาการติดโซเชียลเน็ตเวิร์ก
เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้นแล้ว
เราก็ควรต้องใส่ความมุ่งมั่นให้เต็มเปี่ยม
ง่าย
ๆ ก็แค่คิดว่า ตอนนี้เรากำลังเล่นเกม หรือแบบทดสอบอยู่ โดยมีกติกา คือ
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ต้องไม่หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู
แต่ถ้าจะเผลอเช็กทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก หรืออินสตาแกรมบ้าง ก็พอหยวน ๆ กันได้
เพียงแต่อย่าทำบ่อย ๆ ก็พอค่ะ
2. แค่เวลาสั้น ๆ อดทนให้ได้
ทุกวันนี้เราอยู่กับสังคมก้มหน้ามาจนชิน และเกือบลืมสนใจคนรอบข้างกันแล้ว
ซึ่งไม่ใช่เรื่องที่ดีสักเท่าไรเลยว่าไหมคะ
กับการที่เราเทความสำคัญให้เพื่อนในเฟซบุ๊ก ทวิตเตอร์
หรือโซเชียลเน็ตเวิร์กอื่น ๆ มากกว่าคนในครอบครัว และเพื่อนที่นั่งข้าง ๆ
เรา ดังนั้นเมื่อมีโอกาสได้เงยหน้าจากจอโทรศัพท์แล้ว
ก็อดทนให้ได้ตลอดรอดฝั่ง และอย่าลืมว่า การทำ ดิจิตอล ดีท็อกซ์ (Digital
Detox) ใช้เวลาแค่ 24 ชั่วโมงเองนะ เวลาสั้น ๆ แค่นี้
โลกโซเชียลเน็ตเวิร์กของเราคงไม่สั่นคลอนหรอกเนอะ
3. จิ้มให้น้อย มิตรภาพแน่นแฟ้นขึ้น
ถ้าคุณใส่ใจที่จะพูดคุยกับคนรอบข้างให้มากขึ้น สบตาเขาให้บ่อยกว่าเดิม
แทนที่จะก้มหน้าจิ้มโทรศัพท์เพลินทั้งวัน คุณจะรู้เลยว่า
การสื่อสารกันแบบตัวต่อตัวดีกว่าสื่อสารผ่านตัวอักษรตั้งเยอะ
แถมยังช่วยกระชับความสัมพันธ์ให้แน่นแฟ้นขึ้นได้ง่ายกว่ามาก ๆ เลยด้วย
4. ใส่ใจประสบการณ์ดีกว่า
หลายคนคิดว่า
รูปภาพในอินสตาแกรมช่วยเปิดโลกกว้างให้คุณได้เห็นอะไรหลายต่อหลายอย่าง
และโซเชียลเน็ตเวิร์กก็ช่วยเปิดโลกกว้างให้คุณได้มากมาย โดยที่ลืมนึกไปว่า
เพียงแค่เราเงยหน้ามองสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา
สำรวจสิ่งแวดล้อมทุกตารางนิ้วด้วยสองตาของเราเอง
มันให้ประสบการร์ชีวิตที่เจ๋งกว่ารูปที่ดูผ่านหน้าจอเป็นไหน ๆ
5. ฝึกสมาธิกับการใช้ชีวิตอย่างเชื่องช้า
ไม่ปฏิเสธว่าโซเชียลเน็ตเวิร์กเป็นเครือข่ายสังคมออนไลน์ที่มีความฉับไวสูงมาก
เราสามารถรับรู้ข่าวสารผ่านจอสี่เหลี่ยมได้แบบเร็วทันใจ
แต่ภายใต้ความคล่องตัวนั้นเราต้องยอมแลกกับความเร่งรีบในชีวิต
จนบางทีก็แอบรู้สึกเหนื่อยเหมือนกันใช่ไหมล่ะ
ถ้า
อย่างนั้นอาจจะดีแล้วที่เราปิดการรับรู้ข่าวสารผ่านโซเชียลเน็ตเวิร์ก
แล้วหันมารับข่าวสารด้วยวิธีเดิมๆ อย่าง การอ่านหนังสือพิมพ์
หรือดูข่าวจากทีวีแทน เพราะคนที่เคยทำดิจิตอล ดีท็อกซ์ (Digital Detox)
มาแล้วก็ได้ให้ข้อมูลว่า การใช้ชีวิตแบบเชื่องช้า
ย้อนกลับไปรับข่าวสารด้วยวิธีที่เคยเป็นมา ช่วยให้เขามีสมาธิ
และจิตใจนิ่งขึ้นมากเลยทีเดียว
6. เต็มที่กับความสนุกสนานที่แท้จริง
โลกในโซเชียลเน็ตเวิร์กไม่มีอะไรมากไปกว่าการแชร์ข้อมูล หรือรูปภาพสวย ๆ
มาอวดกัน ความสุขของเราก็เลยถูกจำกัดขอบเขตเอาไว้กับรูปในจอสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ
นั้นด้วย ทั้งที่จริง ๆ แล้วรอบกายของเรามีสิ่งที่เห็น และจับต้องได้จริง ๆ
ให้สัมผัส และซึมซับความสุขเอาไว้กับตัวได้มากกว่าเยอะเลย
7. โฟกัสสิ่งที่ต้องการให้ชัดเจน
ผู้เชี่ยวชาญด้านจิตวิทยาเคยกล่าวเอาไว้ว่า อาการติดโซเชียลก็คล้าย ๆ
กับอาการอยากอาหาร ที่แม้ว่าเราจะกินอาหารจานหลักจนอิ่มแล้ว
แต่ปากก็ยังอยากกินของหวาน หรือผลไม้ล้างปากต่ออีกนิด และถ้าตามใจปากมาก ๆ
คงไม่แคล้วกลายเป็นคนอ้วนโดยไม่ได้ตั้งใจ โซเชียลเน็ตเวิร์กก็เช่นกัน
ถ้าเราเสพข่าวสารจากแหล่งอื่นมาเรียบร้อยแล้ว หรือพบปะเพื่อนฝูงจนพอใจ
ก็ไม่จำเป็นต้องเช็กสังคมออนไลน์ให้เมื่อยมือหรอกเนอะ
8. มีเวลาในชีวิตอีกเพียบ
เคยสังเกตไหมคะว่า ตั้งแต่มีเทคโนโลยีอย่างสมาร์ทโฟนเข้ามา
เราห่างหายจากงานอดิเรกอย่างการอ่านนิยาย ปลูกต้นไม้ เข้าครัวลองทำเมนูใหม่
ๆ กับคนรักไปเลย แต่ถ้าคุณลองชัตดาวน์สมาร์ทโฟนสัก 24 ชั่วโมง
คุณจะมีเวลาว่างไปทำกิจกรรมที่เคยโปรดปรานเหล่านี้อีกเพียบเลยล่ะ
9. คืนชีวิตที่เปี่ยมสุข
ก่อนหน้าที่เทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทในชีวิตเรามากขนาดนี้
เชื่อว่าหลายคนใช้ชีวิตในอัตราที่เรียบเรื่อย ชิลๆ
กว่าตอนนี้ไม่น้อยเลยทีเดียว เพราะไม่ต้องคอยกังวลว่าใครจะไลน์มาหา
หรือทวีตมาแซว มีธุระอะไรก็นัดเจอ หรือโทรคุยกันแป๊ปเดียวก็รู้เรื่อง
ดังนั้นหากคุณลองตัดโซเชียลเน็ตเวิร์กออกจากชีวิต
แล้วกลับมาใช้ชีวิตเหมือนตอนก่อนมีสมาร์ทโฟนเข้ามา
คุณจะรู้สึกปลอดโปร่งโล่งใจ
แถมร่างกายก็จะรู้สึกกระปรี้กระเปร่าอีกมากเลยทีเดียว
|
ภาพประกอบจากอินเทอร์เน็ต |
ลองห่างจากเทคโนโลยีสักพัก เพื่อคุณภาพชีวิต
และสุขภาพร่างกายที่ดีขึ้นสักหน่อยก็ไม่เลวนะคะ อย่างน้อยๆ
ก็ถนอมสายตาของคุณไปได้มากแล้ว แถมยังมีเวลาได้ขยับร่างกาย
และทำกิจกรรมอื่น ๆ ในชีวิตที่ไม่เคยได้ลองทำอีกสารพัดเลยด้วย
ขอขอบคุณบทความจาก สสส.